| 
  ในท่ามกลางความสลับซับซ้อนและผันผวนของสถานการณ์บ้านเมืองหรือกระทั่งสถานการณ์โลก ความไม่เพียงพอหรือกระทั่งความไม่สามารถในการทำงานของภาครัฐโดยลำพังดูจะเด่นชัดขึ้นทุกขณะ ภาวะเช่นนี้ส่งผลย้อนกลับให้เกิดการเรียกร้องถามหา การลุกขึ้นมาร่วมเป็นธุระเอาบ้านเอาเมืองของประชาชนพลเมืองให้มากขึ้นทุกที ทำอย่างไรจะเร่งเร้า จะปลูกฝังการเมืองภาคพลเมือง  (Civil Politics)  ให้เข้มแข็งขึ้นมาได้ในบ้านเมืองของเรา นี่คือคำถามสำคัญของยุคสมัย  
                                   ยิ่งถ้าหากสภาพการทำงานของภาครัฐ การทำงานของการเมืองภาคตัวแทน เกิดส่อว่ามีความบกพร่อง มีความทุจริตหรือมีความหลงเป็นเจ้าเรือนจนอาจจะยังผลเป็นความเสียหายหนักหนาแก่บ้านเมืองขึ้นด้วยแล้ว ความจำเป็นของบทบาทหน้าที่ของการทำการเมืองภาคพลเมืองก็ดูจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก  
                                   โครงการ  “ร้านกาแฟศิวิฆ คาเฟ่” ก่อรูปขึ้นมาก็ด้วยความเชื่อที่ว่า การเมืองภาคพลเมืองนั้นจะวัฒนาขึ้นมาได้ก็ด้วยการเกิดขึ้นของ  “วิถีชีวิตพลเมือง” ที่ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมดาและเป็นกิจวัตรเสียก่อน และ วิถีชีวิตพลเมืองดังกล่าวนี้ ก็คือชีวิตสาธารณะที่เกิดขึ้นในพื้นที่และในบรรยากาศสาธารณะ (Public Space & Public Sphere) เป็นชีวิตสาธารณะที่คึกคักมีชีวิตชีวาด้วยการพบปะแลกเปลี่ยนสื่อสาร (Communication) ของผู้คนเป็นประจำวัน  
                                   ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พลเมืองนั้นแท้จริงยังต้องการการสร้างสรรค์ การกำหนดและการแสดงออกถึงคุณค่า คือความดีและความงามของวิถีชีวิตของตนเองด้วย ความงอกงามของศิลปะ ความรู้ ความคิดหรือกระทั่งปรัชญาที่เป็นตัวของตัวเอง จึงเป็นความต้องการพื้นฐานอีกประการหนึ่งของวิถีชีวิตพลเมือง  
                                   ด้วยความคิดพื้นฐานดังกล่าว โครงการ “ร้านกาแฟตีแปลงกับลานแพร่งภูธร” นี้จึงมีวัตถุประสงค์พื้นฐานสำคัญอยู่เป็นสามประการด้วยกันคือ  
                                   1 เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสาร (Communication Infrastructure) ของพลเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลเมืองกรุงเทพฯ ร้านกาแฟริมลานสาธารณะกลางเมืองเก่าแห่งนี้น่าจะทำหน้าที่เป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนสื่อสารของเหล่าพลเมือง ได้อย่างเป็นธรรมดาและเป็นกิจวัตร  
                                   2 เป็นสถานที่รองรับปฏิบัติกรรมทางสังคม  (Social Action) ต่างๆของเหล่าพลเมือง การมีห้องหับเป็นร้านรวงที่เกาะติดต่อเนื่องกับลานสาธารณะ จะเป็นสภาพกายภาพที่เปิดกว้างและรอให้เกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมและการเข้ายึดใช้ได้อย่างแตกต่างหลากหลาย  
                                   3 เป็นสถานที่รองรับการแสดงออกทางศิลปวัฒนธรรมต่างๆ  (Cultural Activities) กลุ่มอาคารเก่าที่เข้าห้อมล้อมกำหนดลานเมืองขนาดกำลังดีกลางเมืองเก่ากรุงรัตนโกสินทร์ จะเป็นสภาพกายภาพที่เอื้อเป็นอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์และแสดงออกทางศิลปะและวัฒนธรรมของพลเมืองผู้มีใจรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่ไฟแรง  
                                   หวังได้หรือไม่ว่า หากประชาชนพลเมืองกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสสร้างประสบการณ์ชีวิตร่วมกันในบริเวณนี้อย่างต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆแล้ว ย่านแพร่งภูธรนี้อาจจะค่อยๆปรากฏตัวเป็นถิ่นฐานย่านใหม่ของบางกอกที่คึกคักทั้งมีเอกลักษณ์ทางการเมืองและศิลปวัฒนธรรมเป็นของตัว เป็น  “เวทีพลเมือง” (Civic Forum)  ตัวสำคัญของกรุงเทพฯหรือกระทั่งสังคมไทย  
                                   นอกจากความเหมาะสมในแง่  “เทศะ” คือที่ตั้งและสภาพบริเวณแล้ว ในแง่ “กาละ” การพัฒนาโครงการสถานที่นี้ขึ้นมาในช่วงก่อนการเลือกตั้งในต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะมาถึง ก็ทำให้หวังได้ว่า ร้านกาแฟและลานเมืองแห่งนี้จะได้ทำหน้าที่ รองรับวิถีชีวิตและความเคลื่อนไหวของการเมืองภาคพลเมืองต่างๆที่จะพึงเกิดขึ้นในช่วงนี้อย่างสำคัญ ทั้งยังได้อาศัยเป็นจังหวะการเกิดที่เหมาะสม เกื้อหนุนให้ คึกคักมีชีวิตชีวาสืบต่อไปแม้จะผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วก็ตามที  |